Monday, December 31, 2007

Happy New Year 2008

"สุสัต์วัปีม่ " ขอลาที ปีเก่า แสนเศร้าโศก


ความอับโชค ที่มา กับราศี


อีกโพยภัย ไข้ทำ ประจำมี


ในชีวี จงสลาย มลายพลัน




สวัสดี ปีใหม่ ขอให้สุข


หมดสิ้นทุกข์ กายจิต


มิผิดผัน อายุมั่น ขวัญยืน สี่หมื่นวัน


มีผิวพรรณ ผ่องนวล เย้ายวนชม




ปรารถนา เงินทอง กองท่วมฟ้า


ทำการค้า ร่ำรวย ไปสวยสม


มียศศักดิ์ รักใคร ใคร่ภิรมย์


ขอให้กลม เกลียวกัน และมั่นคง




ถ้าผู้ใด ใจว่าง เรื่องทางรัก


ให้พบพักตร์ กันที อย่ามีหลง


หากอกหัก หนักไป ครวญใคร่ปลง


ขอท่านจง โชคดี ทั้งปีเทอญ


~ Happy New Year 2008 ~

Sunday, December 09, 2007

Mail forward ที่น่าสนใจ


............แล้ววันหนึ่งจะมาถึงวันที่พวกเราไม่อยากให้เกิดขึ้น….แล้ววันนั้นเราจะร้องไห้โดยไม่ต้องอายตัวเอง…อ่านเถอะนะ ค่อยๆอ่าน อ่านให้ทุกคนที่อยู่รอบข้างคุณฟัง อ่านเสียงดังๆไม่มีใครว่า <<<ในหลวงทรงร้องไห้>>>เมื่อวันที่ 8 มีนา ที่ผ่านมาผมได้ไปงานที่โรงเรียน เหมือนเช่นทุกปีตอนกลับเดินมาตามตึกยาวเพื่อจะกลับมาทางประตูด้านเพาะช่าง ยังไม่ถึงบริเวณเศาลหลวงพ่อปู่ พบอาจาร์ยท่านหนึ่งนั่งอยู่ จำได้ว่าเป็นอาจารย์สุธี ท่านเกษียณไปแล้ว ไม่รู้คุณรู้จักรึเปล่า กราบอาจารย์ท่านแล้ว สังเกตุเห็นว่าอาจารย์ร้องไห้อยู่ ท่านบอก เพิ่งได้พบกับรุ่นพี่ที่มาในงาน รุ่นที่เท่าไหรก้อไม่ได้ถาม เป็นนายทหารราชองครักษ์ชั้นผู้ใหญ่ เค้าเล่าให้อาจารย์ฟังว่า****ในหลวงทรงร้องให้เห็นบ่อย****'ทรงเสียใจที่เมืองไทยจะสิ้นในรัชกาลของท่าน แล้วกระนั้นหรือ' ผมอยากจะตอบอาจารย์ไปว่าคงไม่หรอก ถ้าคนไทย รู้จำคำว่าว่า'หน้าที่'มากกว่า'สิทธิ' เราเคยชินกับการเป็น..ผู้รับ...จากคนคนหนึ่งที่เกิดมาเป็น..ผู้ให้...ให้มาตลอด เคยชินจนลืมไปว่าวันนี้ถึงเวลาแล้วรึยังที่ เราควรจะผู้ให้แก่พระองค์ท่านบ้าง... ผมลาอาจารย์เรียบร้อยร้อย กลับไปตามตึกยาว ไปไหว้ พระผู้ให้กำเนิดโรงเรียน อธิฐาษขอให้พระองค์ท่านช่วยคุ้มครองให้หลานท่านทรงมีแต่ความสุข..ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรง...เพียงแค่ไม่อยากได้ยินว่า..ในหลวงทรงร้องไห้ความสุขของพระมหากษัตริย์หนึ่งปีที่ผ่านมาเราใส่เสื้อเหลืองเราใส่สายรัดข้อมือสีเหลืองคนนับแสนไปนั่งรอเป็นชั่วโมงๆ หน้าพระที่นั่งอนันตสมาคมเพื่อจะได้เห็นพระพักตร์ของพระบาทพระเจ้าอยู่หัวเพียงไม่กี่นาทีวันนั้น ในขณะที่ทั้งโลกเริ่มเสื่อมศรัทธาในระบบการปกครองโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเราได้ แสดงให้โลกได้เห็นว่ามีประเทศเล็กๆ ประเทศหนึ่งที่คนทั้งชาติยังซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อราชวงศ์ จักรี และ พระมหากษัตริย์อันทรงเป็นที่รักยิ่งของคนไทย .....สิบสองปีที่ผ่านมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวรหนักด้วยโรคหัวใจเพราะทรงงานหนักเกินไปในขณะเดียวกัน สมเด็จพระราชชนนีก็ทรงพระประชวรหนักอยู่ ณ โรงพยาบาลศิริราชเช่นกัน เรายังจำรูปในหนังสือพิมพ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมพระราชชนนี ไม่กี่วันหลังจากการผ่าตัดใหญ่ถวาย พระหัตถ์ข้างหนึ่งกุมอยู่ที่พระอุระ และในพระหัตถ์อีกข้างหนึ่งทรงถือ ม้วนแผนที่กรุงเทพฯ เพราะน้ำกำลังท่วมกรุงอยู่ ยังจำกันได้ไหม?
..... 34 ปีที่ผ่านมาวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2516 เป็นครั้งแรกในรัชกาลที่เกิดวิกฤติด้านการเมืองรุนแรงที่สุดวันนั้น นิสิตนักศึกษาและประชาชนนับหมื่นนับแสนเดินขบวนประท้วงรัฐบาล เหตุการณ์ร้ายแรงยิ่งขึ้นตำรวจทหารยิงประชาชน ในขณะที่นิสิตนักศึกษาก็เผาสถานที่ราชการ เกิดกลียุคทุกหย่อมหญ้า ' คนไทยฆ่าคนไทยด้วยกันเอง 'คืนนั้น สถานีโทรทัศน์ทุกช่องถ่ายทอดสดจากพระราชวังสวนจิตรลดา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสกันคนไทยทุกคนว่า “คนไทยจะฆ่าคนไทยด้วยกันไม่ได้ ทุกอย่างต้องสงบโดยฉับพลัน”และทุกอย่างก็สงบโดยฉับพลัน หลังจากนั้นไม่นาน มีฝรั่งคนหนึ่งมาถามผมว่า “เป็นไปได้อย่างไร ที่คนๆ เดียวจะมีอำนาจเหนือคนทั้งประเทศได้อย่างนั้น?” ผมไม่ได้ตอบ แต่ตอนนั้นใจผมคิดถึงประโยคที่ มรว. คึกฤทธิ์ ปราโมชฯ ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ BBC ว่า พระองค์ทรงเป็น 'SOUL OF THE NATION' หรือ“จิตวิญญาณของคนไทยทั้งชาติ” ยังจำกันได้ไหม?แล้ววันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่เราสร้างค่านิยมผิดๆ ว่าคนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่มีเงินมากที่สุดเราโกงทุกครั้งที่มีโอกาสเราเรียกร้องประชาธิปไตยโดยคิดถึงแต่ “สิทธิ” แต่ลืมคำว่า “หน้าที่”เรากำลังฆ่ากันเองทุกวันในภาคใต้เราสร้าง “กฎหมู่” ให้เหนือ “กฎหมาย”เราเดินขบวนประท้วงในทุกอย่างที่เราไม่เห็นด้วยเราก้าวร้าวต่อกัน เราแตกแยกกันและทั้งโลกกำลังจับตามองเราอยู่เราเคยหยุดคิดกันบ้างไหมว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราจะทรงเสียพระทัยเพียงใด?แล้วสิ่งที่เราทำไปในวันเฉลิมพระชนมพรรษาคืออะไร การที่เราใส่เสื้อเหลือง สายรัดข้อมือ ที่ว่า Long life The King เราทำเพื่ออะไรมันเป็นแค่ผักชีโรยหน้าที่จะแสดงให้โลกเห็นว่าคุณรักพระมหากษัตริย์เพียงใดเท่านั้นนะเหรอ 80 ชันษาของพระองค์ท่าน หากเปรียบกับคนธรรมดาก็สมควรที่จะได้พักเต็มที่ได้รับการดูแลและระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่สมควรที่จะตรากตรำทำงานหนัก แต่กลับเป็นว่า ในปีที่ครบ 80 ชันษาของพระองค์ท่านยังต้องทรงงานอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ทรงต้องอยู่ภายใต้การถวายการดูแลของคณะแพทย์พระองค์ต้องรับทุกข์ของคนไทยทั้งชาติความสุขของพระมหากษัตริย์พระองค์นี้ ไม่ใช่จะประทับอยู่ในพระราชวังใหญ่โตสวยงาม แห่ล้อมด้วยข้าราชบริพารหากแต่ความสุขของพระมหากษัตริย์พระองค์นี้คือ เมื่อประชาชนของพระองค์ท่านรักสามัคคีกันรู้จักความ พอเพียง และมีสติ-เพียงเท่านี้เองแล้ววันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่?หรือนี่คือการแสดงความกตเวทีต่อพระมหากษัตริย์ของเรา

Sunday, December 02, 2007

อุ...ซะ...??